การว่าจ้างพนักงานที่เคยก่ออาชญากรรม คือ หนึ่งในความเสี่ยงที่สามารถเกิดขึ้นได้ในกระบวนการสรรหาบุคลากร ดังนั้นในการสรรหาบุคลากรสำหรับตำแหน่งงานเชิงกลยุทธ์ หรือ ตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในที่สาธารณะ ขั้นตอนการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของผู้สมัครงานจึงมีความจำเป็นเพื่อที่บริษัทหรือองค์กรจะมั่นใจได้ว่าผู้สมัครงานไม่เคยมีประวัติการก่ออาชญากรรม
หากผู้สมัครงานเคยมีประวัติขับขี่ยานพาหนะในขณะมึนเมา ไม่ต้องลังเลเลยว่าประวัติดังกล่าวจำเป็นที่ต้องนำมาประกอบการพิจารณาความเหมาะสมในการเป็นผู้ประกอบอาชีพให้บริการรถโดยสารสาธารณะ หรือ พนักงานขับรถขนส่งสินค้าหรือไม่
นี่คือตัวอย่างหนึ่งของการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมผู้สมัครงาน เพื่อลดความเสี่ยงในการว่าจ้างผู้ที่มีประวัติอาชญากรรม และได้กลายมาเป็นหลักปฏิบัติในหลายบริษัทโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการขนส่ง อย่างไรก็ตามการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมเป็นงานที่ท้าทายเนื่องจากความแตกต่างในบริบทของแต่ละประเทศ ประเทศไทยเองก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ต้องเผชิญความท้าทายดังกล่าว เพราะการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมในดินแดนแห่งรอยยิ้มนี้มีกระบวนการและขั้นตอนที่เฉพาะตัว
ข้อจำกัดด้านการเข้าถึงข้อมูลสาธารณะ
ระบบตุลาการของไทยแบ่งการพิจารณาคดีออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ (1) ศาลชั้นต้น ซึ่งเป็นศาลระดับล่างสุดในโครงสร้างกระบวนการยุติธรรม (2) ศาลอุทธรณ์ ซึ่งพิพากษาคดีที่อุทธรณ์คำตัดสินของศาลชั้นต้น และ (3) ศาลฎีกา ซึ่งพิพากษาคดีที่อุทธรณ์คำตัดสินของศาลอุทธรณ์
ส่วนศาลประจำจังหวัดนั้นจะมีจำนวนของศาลขึ้นอยู่กับจำนวนประชากรในพื้นที่ จังหวัดที่มีประชากรมากสามารถมีศาลอยู่ภายในเขตได้หลายศาล เช่น กรุงเทพมหานคร ที่มีจำนวนศาลทั้งหมด 3 แห่ง ในขณะที่จังหวัดตราดมีศาลเพียงแค่ 1 แห่ง
แต่เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ในประเทศไทยไม่มีเว็บไซต์หรือฐานข้อมูลกลางของระบบศาลในประเทศ ฐานข้อมูลของศาลแต่ละแห่งนั้นแยกฝ่ายกัน ทุก ๆ ศาลมีคอมพิวเตอร์ที่จัดเตรียมฐานข้อมูลคดีความไว้ให้แก่ผู้ที่ต้องการสืบค้นรายละเอียดของผู้สมัครงาน ซึ่งการค้นหาข้อมูลดังกล่าวทำได้แบบออฟไลน์เท่านั้น
การลงพื้นที่ : สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ด้วยเหตุที่ฐานข้อมูลออนไลน์ไม่สามารถเข้าถึงได้ การสืบค้นประวัติอาชญากรรมในประเทศไทยจึงต้องไปดำเนินการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเท่านั้น โดยต้องมีหนังสือให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลจากผู้สมัครเพื่อใช้ในการเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว
หากทำการสืบค้นด้วยวิธีข้างต้นแล้วพบว่าผู้สมัครงานมีประวัติอาชญากรรม ในขั้นตอนต่อไปต้องดำเนินการติดต่อศาลหรือสำนักงานตำรวจในพื้นที่ที่เกิดเหตุอาชญากรรมนั้น เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับคดีโดยละเอียด
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าทุกคนจะให้ความยินยอมเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับคดีความเหล่านี้ บางรายลังเลที่จะให้รายละเอียด...